ซีรี่ย์เกาหลี ครบทุกแนวทั้งใหม่และเก่า ทั้งตลก แฟนตาซี

ซีรี่ย์เกาหลี

ซีรี่ย์เกาหลี

ซีรี่ย์เกาหลี  Remember แค้นเดือดคนดุ พิลจู เป็นชายเฒ่าวัย 80 ที่เคยประจันหน้ากับการสิ้นไปทุกๆสิ่งทุกๆอย่างอย่าง กับสมัยก่อนของประวัติศาสตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นเคยยึดครองประเทศเกาหลีในตอนการสู้รบเสื่อมเสีย รวมทั้งโน่นเป็นชนวนเหตุที่เขาคิดจะล้างแค้นบุคคลที่เคยทำให้เขาจำเป็นต้องเจ็บและก็ทนทุกข์ทรมานมาตลอดยาวนานหลายปี โดยที่ อินกยู ชายหนุ่มรุ่นราวคราวหลานของเขา ได้เข้ามาช่วยเหลือทำให้แนวทางคราวนี้ของเขาได้ลุลวง

หนังหัวข้อนี้ได้ผลงานควบคุมแล้วก็เขียนบทโดย “อีอิลฮยอง” นักสร้างภาพยนตร์ชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวแล้วก็มีประสบการณ์ด้านงานสายนี้ไม่ค่อยมากแค่ไหน แต่ว่าก็ได้ทีเด็ดตรงที่ 2 ดารานำของประเด็นนี้ คว้าเอาตัวท็อป 2 รุ่น อย่าง “อีซองไม่น” มาตามติดคู่กับ “นัมจูฮยอก” ในหนังที่เต็มไปด้วยพล็อตดราม่าแค้นใจแบบเต็มที่ที่ค่อนข้างจะเพิ่มน้ำหนักใส่ผู้ชมมากขึ้นเรื่อยเปลี่ยนเป็นหนังที่ผู้แสดงจะต้องช่วยเหลือกันแบกรับหนังเอาไว้อีกทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยมเด่น
ชายแก่ผู้เก็บความโกรธแค้นมานานกว่า 60 ปี จากการสูญเสียครอบครัวในสมัยประเทศญี่ปุ่นล่าอาณานิคม เขาคิดแผนเอาคืนรวมทั้งขอให้สหายร่วมงานรุ่นหลานทำงานขับรถให้ 1 อาทิตย์ โดยที่ชายหนุ่มคนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเข้าไปพันพัวเหตุการสังหารภายหลังทรมาทรกรรมกับโรคร้ายมานาน… พิลจู (อีซองไม่น) กำลังจะเปลี่ยนเป็นคนไข้โรคอัลไซเมอร์ เขาก็เลยขอทุ่มชีวิตที่เหลือออกตามล่าศัตรูก่อนที่จะเขาจะลืมความแค้น

ซึ่งแผนนี้เขาได้รับการช่วยเหลือจาก อิน กยู (นัมจูฮยอก)  ซีรี่ย์เกาหลี   ชายหนุ่มสหายร่วมงานที่เข้ามามีส่วนร่วมอย่างไม่ได้ตั้งใจ รวมทั้งเขายังแปลงเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นอีกด้วย แนวทางชำระแค้นคราวนี้จะส่งผลให้เกิดจุดสิ้นสุดเช่นไร เมื่อข้อบังคับกำลังไล่ล่าเขาแบบหายใจรดก้านคอ รวมทั้งพิลจูจำต้องแลกเปลี่ยนทุกๆอย่างเพื่อเขาทวงแค้นเสร็จก่อนความจำของเขาจะสลายไปชั่วนิจนิรันดร์

ซีรี่ย์เกาหลี 

ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า Remember ไม่ค่อยจะมีพล็อตรวมทั้งพล็อตเรื่องที่สร้างความแปลกใหม่สักเท่าไหร่นัก หนังก็ราวกับถือเอาหนังประเทศเกาหลีรวมทั้งหนังฮอลลิวูดเรื่องโน่นนี้มาเรียงร้อยต่อประกอบรวมร่างขึ้นมาใหม่ ออกมาในอรรถรสที่ยังพอเพียงถูๆไถๆมองได้บันเทิงใจไปตลอดทั้งเรื่อง โดยที่ผู้ชมไม่น่าจะคาดคะเนแนวทางของหนังได้ยากอะไร และก็จังหวะต่างๆของหนังช่างใส่มาลงล็อกแบบเป๊ะๆราวกับโดนจับวางเป็นของสำเร็จรูปอะไรทำนองนั้นเลย

เพราะเหตุว่าพล็อตที่มิได้มีกลเม็ดเด็ดพรายแล้วก็กึ๋นอะไรเยอะแค่ไหน แต่ว่าตัวหนังกลับได้พลังทางการแสดงของดาราหนังมาช่วยเป็นนายหามเอาไว้เจริญแท้ อีซองไม่น กับ นัมจูฮยอก เป็นส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมของหนังประเด็นนี้ และก็สามารถวางใจหัวข้อการพลั่งพรูอารมณ์ทางการแสดงออกมาจากพวกเขาได้อย่างสบายๆแล้วก็พวกเขาก็สามารถทำออกมาได้เกือบเยี่ยมที่สุด ถึงจะถูกรายล้อมไปด้วยส่วนประกอบที่แล้งจากความเป็นสูตรสำเร็จทั้งปวงก็ตาม

อีซองไม่น ที่จะต้องยกนิ้วให้กับอินเนอร์ทางการแสดงของเขา หัวข้อนี้บางทีอาจจะจำต้องมารับบทชายแก่ที่เกินวัยเขาไปราวๆหนึ่งสักเท่าไหร่ แต่ว่าเขาก็ทำออกมาได้ใช้ได้ แต่ว่าแอบจำต้องตัดคะแนนเล็กน้อย ตรงที่หน้าที่ในรูปแบบนี้เขาเองก็เคยเล่นมาบ้าง และก็มีบางเรื่องที่เล่นได้ดียิ่งไปกว่านี้ ในขณะที่การออกแบบการออกอิริยาบถในแบบอย่างชายเฒ่าในหัวข้อนี้ของเขานั้น ยังไม่ค่อยสมูทกลมกลืนได้ถึงที่สุด บางจุดบางช่วงยังแอบติดอาการความเป็นชายหนุ่มกว่าปู่ไปสักหน่อย

ก็ตาม ช่างเป็นบทที่ค่อนข้างจะแบนราบ แต่ว่าเขาก็ใช้ความชำนาญของ ซีรี่ย์เกาหลี   การเป็นดาราหนังมือโปรถ่ายทอดบทนี้ออกมาให้มองมีอะไรมากขึ้นได้อย่างน่าประทับใจ ถึงแม้ว่าบทหนังจะใส่บทของเขาราวกับเป็นเพียงแค่ตัวเสริมเข้าไปคราวหน้า แต่ว่าเขาก็ยังขุดความสะดุดตาออกมาให้ฉายแสงในหนังหัวข้อนี้ได้ออกจะถูกใจทีเดียวRemember บางครั้งก็อาจจะเต็มไปด้วยความซ้ำๆซากๆ แม้กระนั้นขั้นต่ำๆแกนหลักรวมทั้งหลักสำคัญของหนังก็ออกจะพรีเซ็นท์ได้อย่างแจ่มแจ้ง ด้วยการจับเอาพรีเซนเทชั่นเกี่ยวกับผลพวงรวมทั้งผลพ่วงเกี่ยวกับรอยแผลในตอนการทำศึกมาขยี้ในช่วงปัจจุบัน

สะท้อนให้มองเห็นชีวิตของคนรุ่นหนึ่งที่ยังจำเป็นต้องหามความทุกข์ใจจากผลที่ความแตกร้าวในแผ่นดิน การคุกคามรวมทั้งการเลือกข้างที่ทำให้แนวทางชีวิตของพวกเขาจำเป็นต้องแปรไปชั่วนิจนิรันดร์ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นการปิดบังความแค้นเอาไว้อยู่ด้านในใจมาตลอดยาวนานหลายปีบางครั้งอาจจะยังไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟ็คอะไร องค์ประกอบรวมทั้งพล็อตของหนังยังเต็มไปด้วยช่องโหว่แล้วก็รอยรั่วอยู่บ้าง พล็อตใส่สูตรสำเร็จเข้าไปเกือบสำเร็จรูปไปแล้ว แต่ว่าส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมก็คือกลุ่มผู้แสดง ไม่ว่าจะเป็นอีกทั้ง 2 ดารา

หรือดาราหนังสมทบผู้อื่นที่จัดว่าพวกเขามาช่วยเหลือกันประคองให้หนังหัวข้อนี้ไปได้ถึงฝั่ง ถึงในตอนท้ายแล้วนั้น หนังก็ปฏิบัติหน้าที่ให้ความบันเทิงในครู่เดียวเจริญ แต่ว่าโชคร้ายที่ยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจำในหนังประเด็นนี้สักเท่าไหร่นักซึ่งในรูปภาพยนตร์ นอกเหนือจากที่จะเข้มข้น และก็ความน่าติดตามของเรื่องราวแล้ว ยังถือว่าเป็นการเจอกันของสองดาราหนังมากมายความสามารถที่ไม่เหมือนกันเต็มที่ นำกลุ่มเดือดโดย ‘นัมจูฮยอก’ ผู้แสดงวัยรุ่นมาแรง รวมทั้งเนื้อหอมที่มีชื่อเสียงจากซีรีส์สุดได้รับความนิยมอย่างTwenty-Five, Twenty-One และก็ Start-Up มารับบทเป็น ‘อินกยู’

เด็กวัยหนุ่มวัย 20 ปี ที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับการทวงแค้นคราวนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ แม้กระนั้นกลยุทธ์กลับบกพร่องเมื่อภาพของเขาถูกบันทึกได้ในกล้องวงจรปิดรวมทั้งกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการสังหาร เขาไม่มีตัวเลือกอื่นนอกเหนือจากช่วยทำให้การแก้เผ็ดคราวนี้เสร็จรวมทั้ง ‘อีซองไม่น’ ดารารุ่นเก๋าที่ส่งผลงานประสิทธิภาพอย่าง Hunt, Juvenile Justice และก็อีกเยอะแยะ มารับบทเป็น ‘พิลจู’ คนป่วยอัลไซเมอร์ และก็เนื้องอกในสมองระยะท้ายที่สุดที่ขอทุ่มชีวิตที่เหลืออยู่ออกตามล่าศัตรูที่ทำลายครอบครัวของเขาในสมัยก่อน ความ โกรธแค้นที่สะสมมานานกว่า 60 ปี ถึงเวลาจำเป็นต้องคิดบัญชีคนพาลให้สม

การโคจรมาเจอกันของสองผู้แสดงในคราวนี้ทำให้ ‘อีอิลฮยอง’ ผู้กำกับ ได้สรรเสริญการแสดงของทั้งยัง 2 คนไว้ว่า “ทั้งยัง 2 คน เป็นเพื่อนซี้ที่แสดงเป็นธรรมชาติมากมาย ความ สามารถด้านการแสดง เป็นส่วนสำคัญของ บท พิลจู เพราะเหตุว่าเขาจะต้องมี ความอบอุ่น แบบปู่ แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันเขา พร้อมที่จะ ลงมือ ฆ่า อย่างโหดเหี้ยม ส่วนอินกยู เขาเป็น วัยรุ่น ผ่องใส มองโลกในแง่ดี ที่ทุ่มเทให้กับ งาน พาร์ตไทม์เต็มเปี่ยม ซึ่งนัมจูฮยอกแสดงออกมาเป็นธรรมชาติมากมาย”

 

Toxic สูดมรณะ

Toxic จะพาคุณเดินทางสู่รถไฟบินตีลังกาผ่านความรัก ความเจ็บปวดดวงใจ ความเจ็บ ความหวาดกลัว ความเศร้าโศก ความขุ่นเคือง ความตั้งใจจริง แล้วก็ถึงแม้ว่าจะการทรยศหักหลัง แม้ว่าจะทราบดีว่าฐานรากของเรื่องมาจากความเป็นจริง แม้กระนั้นก็มิได้แปลว่าฉันจะสามารถเดาตอนสุดท้ายได้ ภาพยนตร์ประเทศเกาหลีชำนิชำนาญศิลป์การเล่าเรื่องเมื่อเอ่ยถึงเรื่องราวที่น่าจับตาดู รวมทั้ง Toxic ก็ไม่มีข้อละเว้นฉันไม่เคยคิดมากเกี่ยวกับผู้ที่มีความเชื่อมโยงและก็ทรงอิทธิพล แต่ว่าในตอนที่มองเรื่องราวของ Toxic ที่เกิดขึ้นบนจอขนาดใหญ่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกป่วยไข้และก็โกรธที่คนอันตรายสามารถเมื่อพวกเขามีเงินรวมทั้งอำนาจที่

การกำจัด ฉันนั่งไม่ติดเก้าอี้ตลอดการรับดู ซีรี่ย์เกาหลี   รวมทั้งฉันก็หยุดความนึกคิดในใจมิได้ว่าประเด็นนี้ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ ชีวิตจริงสูญเสียไปแล้วก็ได้รับการกระทำเหมือนเป็นความเสียหายของบริษัทเพื่อทำความเสียหายพลเมืองในประเทศประเทศเกาหลีจำต้องเผชิญกับโรคปอดชนิดหนึ่งหมอผู้ชำนาญแทฮุน (คิมซังคยอง) พบว่าลูกชายวัย 6 ขวบของเขาเป็นโรคปอดที่ไม่เคยทราบมูลเหตุ ในระหว่างที่เขากำลังระทมทุกข์จากลักษณะการป่วยฉับพลันของลูกชายของเขา แม้กระทั้งเมียของเขา (ซอกซอยองฮี)

ของเขาก็ยังเสียชีวิตในทันใด แทฮุนได้ทราบดีว่าเมียของเขาซึ่งสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี เสียชีวิตทันทีทันใดด้วยโรคปอด แล้วก็เริ่มค้นหาต้นสายปลายเหตุในฐานะแพทย์ เขาเริ่มขุดลึกลงไปในความลับของคดีนี้ โดยสืบคดีของผู้ที่เสียชีวิตด้วยอาการที่คล้ายกันกับอัยการยองจู (ลีซุนบิน) น้องสาวของเมียที่เสียชีวิตของเขาเมื่อพลเมืองในประเทศประเทศเกาหลีจำเป็นต้องเผชิญกับโรคปอดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาการเดิมของมันมาจากปอดที่เต็มไปด้วยพังผืด ก่อนเปลี่ยนสภาพแข็งเป็นหินแล้วก็เสียชีวิตลงภายในเวลาอันเร็วทันใจ

กระทั่งถัดมาโรคแปลกนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของ แพทย์จองแทฮุน (คิมซัง-คยอง) ที่ค้นพบว่าลูกชายที่แข็งแรงของเขา จู่ๆก็ล้มป่วยทันควัน รวมทั้งรุนแรงกว่านั้นก็เป็นเมียของเขา ฮันกิลจู (ซอกซอยอง-ฮี) ได้เสียชีวิตทันทีทันใด ทำให้เขารวมทั้ง อัยการฮันยองจู (อีชอน-บิน) ผู้เป็นน้องสาวของฮันกิลจู ก็เลยจำต้องช่วยเหลือกันค้นหาเค้าเงื่อนที่ก่อให้เกิดตัวการชักชวนสยดสยองและก็ผู้ร่วมชะตาชีวิตผู้อื่นอีกเยอะมากที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆในสังคมประเทศเกาหลีมานานยาวนานหลายปี กลับไม่มีผู้ใดกล้าที่จะออกมาเปิดเผยหัวข้อนี้ ก็เพราะว่ามันเป็นการบางทีอาจจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยชีวิต

Toxic หรืออีกชื่อว่า Air Murder เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงแก้ไขมาจากนิยายเรื่อง Gyun ซึ่งแต่งขึ้นโดยอิงเค้าเรื่องของสถานะการณ์จริงเรื่องหายนะสาร PHMG (Polyhexamethylene Guanidine Hydrochloride) ในสินค้าน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแบรนด์หนึ่งที่ใช้ใส่ไว้ด้านในเครื่องเพิ่มความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ (Air Humidifier) ซึ่งเกิดขึ้นจริงในประเทศเกาหลีเป็นคดีความเมื่อปี 2011 อันกล่าวได้ว่าเป็นเลิศในคดีภัยอันตรายจากสารเคมีที่ส่งผลรุกรามชีวิตครั้งสำคัญของโลกได้เลย

แม้ว่าจะมีตัวเลขกล่าวว่ามีคนตาย 1,740 ราย คนไข้อีก 5,902 รายนั้น แต่ถ้าว่าตามการเล่าเรียนของคณะกรรมการไต่สวนพิเศษหายนะสังคมแห่งชาติแล้ว ได้ประเมินไว้ว่ามีผู้ได้รับพิษรวม 8,940,000 คน เจ็บป่วย 950,000 คน รวมทั้งเสียชีวิตถึง 20,366 คน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาตัวนี้วางขายมาแล้ว 17 ปี สูงถึง 10 ล้านขวดตัวหนังได้ถูกสร้างออกมาในพล็อตเชิงงานเบิกบาน ส่วนแรกจะเริ่มจากปัญหาของโรคปอดชนิดหนึ่ง อาการเริ่มจากปอดเต็มไปด้วยพังผืด ก่อนเปลี่ยนสภาพแข็งเป็นหินรวมทั้งเสียชีวิต โรคนี้ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของ

แพทย์จองแทฮุน (เล่นบทโดย คิมซังคยอง)  ซีรี่ย์เกาหลี   ที่ค้นพบว่าลูกชายที่แข็งแรงของเขา จู่ๆก็ล้มป่วยฉับพลัน และก็เมียของเขา ฮันกิลจู (รับบทบาทโดย ซอกซอยองฮี) จู่ๆก็เสียชีวิตอย่างเฉียบพลันแพทย์จองแทฮุนและก็ อัยการฮันยองจู (เล่นบทโดย อีชอนบิน) ผู้เป็นน้องสาวของฮันกิลจู ก็เลยช่วยเหลือกันแสวงหาร่องรอยที่ส่งผลให้เกิดปัจจัยตัวการ ทำให้เจอผู้ร่วมเคราะห์กรรมคนอื่นอีกมากมาย เพราะเหตุว่าโรคปัญหานี้เกิดขึ้นอย่างเงียบๆมานับเป็นเวลาหลายปีแล้วต่อจากนั้นก็เลยทำให้เกิดรายละเอียดในส่วนของการต่อสู้ด้านกฎหมาย

ไปสู่การใคร่ครวญคดีในชั้นศาล ซึ่งก็จะเข้าสูตรการต่อสู้ของประชาชนตาดำๆตัวเล็กๆไม่มีอาวุธ กับบริษัทต่างประเทศยักษ์ใหญ่ทุนครึ้มเครดิตดีด้วยเหตุว่าทำธุรกิจมายาวนาน คู่ชกมวยต่างชั้นของ ฮันยองจู ทนายความสาวมือใหม่ที่ผันตัวมาจากอาชีพอัยการ กับกลุ่มทนายเก๋าเกมจากที่ทำการข้อบังคับมีชื่อเสียง ก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสารพันปัญหาที่จะยัดเยียดเข้าไปประเดโถมใส่ให้กลุ่ม

โจทก์ผู้ฟ้องค่อนข้างจะเสียเปรียบเป็นรองอยู่เสมอ สำคัญๆก็เนื่องจากลูกเล่นเล่ห์กลกลลวงของบริษัท O2 ผู้มีอิทธิพลเงินสำหรับการกรุย ภายใต้การจัดการของ ซีอีโอโจ (รับบทบาทโดย จางฮยอกจิน) รวมทั้ง ผู้ช่วยมือขวา ซออูชิก (สวมบทโดย ยุยงนคยองโฮ) เชิญให้ไปติดตามเชียร์ว่าคดีจะจบได้อย่างแม่นยำยุติธรรมยังไงแน่ๆว่าเมื่อเป็นเค้าเรื่องราวของเรื่องจริงที่รู้ๆกันดีอยู่แล้วแล้ว ก็คงจะไม่มุ่งหวังการลุ้นออกหัวหรือก้อยในจุดหมาย แต่ว่าก็ยังได้ตามมองการกลับเกมไปๆมาๆบ้าง หยอดการสับขาหลอกหักมุมเพิ่มมิติความเพลิดเพลินบ้าง ลดความทายใจได้และก็สูตรสำเร็จของหนัง Genre นี้ไป

แม้กระนั้น สำหรับเพื่อการลัดความตัดตอนจัดซีนให้เข้าถึงบท บีบอารมณ์กระทบกระเทือนจิตใจที่มีปลดปล่อยมาเรื่อยกระทั่งบางทีอาจมองค่อนไปทางตั้งมั่นประดิษฐ์บทเกินความจำเป็นหน่อย ทั้งที่ก็อิงบนความเหมือนจริงที่เจอได้แน่ๆในเรื่องทำนองนี้ ก็อาจจะเนื่องจากการจำกัดเวลาให้รวบเล่าทั้งผองในเพียงแต่ชั่วโมงกว่าๆนั่นแหละถ้าเกิดดูกันที่เนื้อแท้ของเรื่องราว

มันเป็นสถานะการณ์ที่สุดช้ำใจ และก็น่าสงสารผู้กลายเป็นเหยื่อแบบไม่รู้จักอิโหน่อิเหน่อย่างยิ่ง ซีรี่ย์เกาหลี   ยิ่งคิดยิ่งซึมเซาว่า จากความมุ่งหวังเรื่องสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของการพึ่งพิงเครื่องเพิ่มความชื้นที่อยู่ภายในอากาศโดยใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคด้วย กลายเป็นอาวุธพิฆาตเอาชีวิต ยิ่งเป็นวิถีชีวิตที่คนที่ซื้อไปชอบใช้มันกับผู้ที่รักแล้วก็ฟูมฟักอย่างคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัว อย่างเช่นลูกๆเมียที่ดูแลสนิทสนมลูก หรือเมียที่ตั้งท้อง หรือคนวัยแก่ด้วยแล้ว ยิ่งปวดใจไปอีก

 

Decision to Leave ฆาตกรรมรัก หลังเขา

ฮจุน เป็นตำรวจสายลับที่อ่อนโยนต่อผู้อื่นรอบกาย แต่เสมือนเป็นอีกคนเมื่อเขาดำตรงไปสู่การไต่ถามคดีแต่ละคดี และก็เขาก็ได้รับมอบหมายให้แสวงหาร่องรอยเกี่ยวกับคดีการตายแบบไม่ถูกวิถีธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบริเวณช่องเขาแห่งหนึ่ง ตรงนั้นทำให้เขาได้เจอกับ ซอแร อดีตกาลเมียของคนเสียชีวิตในคดีนี้ แน่ๆว่าเขาสงสัยคุณเป็นลำดับต้นๆในดคีนี้ แต่เปลี่ยนเป็นว่ายิ่งสงสัย เขากลับยิ่งเผลอไผลในคุณมากเพิ่มขึ้น เมื่อศพปัญหา หล่นลงมาจากยอดดอย เอามาสู่ความข้องเกี่ยวต้องห้าม ที่ไม่บางทีอาจหลีกเลี่ยง “ยิ่งหลงเสน่ห์ ยิ่งติดกับ” การตัดสินใจคราวนี้ กำลังจะแปลงคุณและก็เขาไปชั่วกัลปวสาน

หนังในชื่อ พัคชานอุค ย่อมไม่ใช่ปกติสามัญแน่ๆ ถ้าหากเข้าถึงสิ่งจูงใจและก็ความยูนีคของเขาได้ ก็จะสนุกสนานตามไปกับมิติรายละเอียดที่อีกทั้งแน่นทั้งยังแรง รวมทั้งได้เสพย์งานอาร์ตระดับประสิทธิภาพ ซึ่งแทบจะทั้งหมดก็จะเป็น Genre แนวหนักชั่วร้าย เศร้าใจระทึก เครียดๆโกรธแค้นๆหรือทิ้งอะไรให้วนเวียนในสมองพวกเราต่อได้อีกหลายๆวันเลย กระทั่งตัวเขาเองเคยกลับมู้ด ทำรอมคอมไว้เรื่องหนึ่งเป็น I’m a Cyborg, But That’s OK เพื่อบุตรสาวได้ได้โอกาสเข้าถึงงานของเขาบ้าง เพราะเหตุว่าเขาเองก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก แม้กระนั้นเอาจริงเอาจังก็มิได้เป็นรอมคอมแบบเบาสมองเลยจ๊ะ

โรมานซ์สไตล์นีโอนัวร์Decision to Leave นี้ก็เป็นงานโรมานซ์ที่ก้าวผ่านความธรรมดาไปเป็น  ซีรี่ย์เกาหลี   โรมานซ์สไตล์นีโอนัวร์ เขาบอกไว้ว่าตั้งมั่นที่จะทำหนังในโทนที่ไม่เปิดเผย แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะให้เงียบจากการจำกัดบทสนทนา เอาจริงเอาจัง บทสำหรับพูดประเด็นนี้กลัยมากกว่าเสียอีก เนื่องจากเขาต้องการจะแทนคำว่า ‘ฉันรักคุณ’ ด้วยการบรรจงถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกนั้นออกมามากยิ่งกว่า

การดำเนินเรื่องก็เลยค่อนไปทาง Slow-burn เบาๆเพาะบ่มอารมณ์ควบไปกับเนื้อเรื่องของการไขปัญหาคดีสอบสวนตื่นเต้นเบาๆเคล้าดราม่า เป็นที่น่าทึ่งว่าเนื้อหาของบทสำหรับพูด ภาพ เสียง ล้วนมีอะไรๆให้เก็บให้อินกันทุกเม็ดจริงๆจนกระทั่งการดูรอบเดียวคงจะเก็บได้ไม่หมดแน่นอนแฮจุน (รับบทบาทโดย พัคแฮอิล) ตำรวจสายผู้หมกมุ่นขมักเขม้นกับงาน กระทั่งชักชวนสงสัยได้ว่า เนื่องจากงานทำให้เขาเป็นโรคเครียดนอนไม่หลับอย่างหนัก หรือเพราะว่าการนอนไม่หลับเลยทำให้เขาบ้างาน (ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่าอย่างข้างหลัง)

ซีรี่ย์เกาหลี 

เขามีลักษณะของ OCD อ่อนๆที่หมกมุ่น เก็บเนื้อหาทุกเม็ด จะต้องเพอร์เฟ็ค เรียบร้อย ตั้งใจจำแม้กระทั้งกับจำนวน เขาปฏิบัติงานอยู่ในปูซาน สุดสัปดาห์แล้วก็ค่อยกลับไปอยู่ที่บ้านครั้งได้พบเมีย จองอัน (รับบทบาทโดย อีจองฮยอน) ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆริมตลิ่งซึ่งมีก็เพียงแต่หมอกปกคลุม ส่วนลูกชายก็พักอยู่หอพักหมกมุ่นกับการศึกษา (เสมือนบิดาไม๊หละ!)

แฮจุนรวมทั้งรุ่นน้องผู้ช่วย ซูวอน (สวมบทโดย โกคยองพโย) เข้าไปทำคดีตายปัญหาของ กีโดซู (สวมบทโดย ยูซึงมก) นักกีฬาปีนเขาสมัครเล่นที่ตกจากยอดดอยชัน ซึ่งบางทีอาจเป็นการการสังหารก็ได้ แฮจุนได้เจอกับเมียคนเสียชีวิต ซอแร (เล่นบทโดย ถังเหว่ย) ที่อายุคราวลูก เป็นคนจีนหลบเข้าประเทศเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้แต่ว่าผิดส่งตัวกลับ เพราะว่ากีโดซูที่เป็นข้าราชการกองตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งอีกเหตุผลเป็นการศึกษาและทำการค้นพบเกียรติของต้นตระกูลคุณที่เป็นนักสู้เลือดรักชาติประเทศเกาหลี

การดำเนินเรื่องก็เลยค่อนไปทาง Slow-burn เบาๆเพาะบ่มอารมณ์ควบไปกับเนื้อเรื่องของการไขปัญหาคดีสืบสาวตื่นเต้นเบาๆเคล้าดราม่า เป็นที่น่าทึ่งว่าเนื้อหาของบทสนทนา ภาพ เสียง ล้วนมีอะไรๆให้เก็บให้อินกันทุกเม็ดจริงๆจนกระทั่งการดูรอบเดียวคงจะเก็บได้ไม่หมดแน่ๆแฮจุน (สวมบทบาทโดย พัคแฮอิล) ตำรวจสปายผู้หมกมุ่นตั้งใจจริงกับงาน จนถึงเชื้อเชิญสงสัยได้ว่า เนื่องจากว่างานทำให้เขาเป็นโรคเครียดนอนไมหลับอย่างหนัก หรือเนื่องจากการนอนไม่หลับเลยทำให้เขาบ้างาน (ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่าอย่างข้างหลัง)

เขามีลักษณะของ OCD อ่อนๆที่หมกมุ่น เก็บเนื้อหาทุกเม็ด จำเป็นต้องเพอร์เฟ็ค  ซีรี่ย์เกาหลี   เรียบร้อย ตั้งใจจำแม้กระทั้งกับจำนวน เขาดำเนินงานอยู่ในปูซาน สุดสัปดาห์แล้วก็ค่อยกลับไปอยู่บ้านครั้งได้พบเมีย จองอัน (เล่นบทโดย อีจองฮยอน) ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆริมฝั่งซึ่งมีก็แต่หมอกปกคลุม ส่วนลูกชายก็พักอยู่หอพักหมกมุ่นกับการศึกษา (เสมือนบิดาไม๊หละ!)

แฮจุนและก็รุ่นน้องผู้ช่วย ซูวอน (สวมบทบาทโดย โกคยองพโย) เข้าไปทำคดีตายปัญหาของ กีโดซู (สวมบทโดย ยูซึงมก) นักกีฬาปีนเขาสมัครเล่นที่ตกจากยอดดอยชัน ซึ่งบางทีอาจเป็นการการฆ่าก็ได้ แฮจุนได้เจอกับเมียคนเสียชีวิต ซอแร (สวมบทบาทโดย ถังเหว่ย) ที่อายุคราวลูก เป็นคนจีนหลบเข้าประเทศเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้แม้กระนั้นผิดส่งตัวกลับ เนื่องจากกีโดซูที่เป็นข้าราชการกองตรวจคนเข้าเมือง แล้วก็อีกเหตุผลเป็นการศึกษาและทำการค้นพบเกียรติของต้นตระกูลคุณที่เป็นนักสู้เลือดรักชาติประเทศเกาหลี

งาน Cinematography เป็นหัวใจหลักของหนังประเด็นนี้ที่ไม่กล่าวถึงมิได้เลย งามสดใหม่ไม่เหมือนกัน การเลย์ซาวน์ ดี สกอร์ซาวน์แปลก ไม่เปิดเผย (สมหนทางที่ผู้กับวางไว้) แม้กระนั้นได้อารมณ์มากมาย ได้แก่ ซาวน์เสียงแหลมกรีดจิตใจในฉากลุ้นความรู้สึกในใจ รวมทั้งเพลงธีมที่เลือกมาก็ดีเยี่ยมๆอีกทั้งรายละเอียดที่เล่นกับ ‘หมอก’ กับเมือง และก็กับดวงตาขุ่นมัวของแฮจุน จังหวะทำนองก็เพราะกับท่าทางผู้แสดงได้

งานภาพเป็นยิ่งได้มองเห็นช็อตผิดตา สื่ออารมณ์แล้วก็นัยความหมายได้ดิบได้ดี เป็นต้นว่า เล่าอารมณ์ความรู้สึก ‘ต้องการ’ ให้สมจริงสมจัง ด้วยการจินตนาการเอาตัวเข้าไปอยู่ร่วมเฟรมร่วมเรื่องที่มองดูอยู่คิดอยู่ (กระทั่งผู้ชมบางบุคคลบางทีอาจเผลอสับสนได้) การซ้อนภาพสองอย่างหรือสองช็อตในเฟรมเดียวกัน ให้อารมณ์แปลกๆแนว ‘ถลำ‘ กับความถลำใจของตัวนำด้วย

นี่เป็นหนังสอบสวนสืบสวน ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศความโรแมนติก ดราม่า แบบครบถ้วนมากมาย พูดได้ว่าบทถูกเขียนมาอย่างชาญฉลาดรวมทั้งอ่อนโยนอย่างมากมาย บทมันเด็ดมาก แรกๆพวกเราจะรู้สึกเสมือนหนังสอบสวนสืบสวนทั่วๆไปเกี่ยวกับคดีหนึ่ง แม้กระนั้นยิ่งหนังดำเนินไปคุณจะสัมผัสได้ว่านี่มันเป็นหนังรักที่กางคกราวเกรียวเป็นการสืบคดี

หนังปูเรื่องความเกี่ยวเนื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสายสืบชายหนุ่มและก็ผู้ต้องสงสัยสาวได้อย่างดีเยี่ยม มีการปรับปรุงนักแสดงแล้วก็ความเกี่ยวข้องตลอดระยะเวลา ครึ่งเรื่องแรกมันจะมีความลำบากใจในความข้องเกี่ยวของทั้งคู่ พร้อมๆกับสร้างความรู้สึกบางสิ่งแบบพะอืดพะอมบอกผิดให้กับผู้ชมไปด้วย ทำนองว่า เอ๊ะ พวกเราจำต้องรู้สึกอย่างไรกับความเกี่ยวเนื่องของทั้งสองดีนะ มันชักชวนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ว่ามันก็ตรึงให้พวกเราอยู่กับเรื่องราวได้ตลอด พร้อมดึงพวกเราด้วยปัญหาว่าความชมรมนี้มันจะจบยังไง

 

One Dollar Lawyer วันดอลลาร์ลอวเยอร์

‘ชอนจีฮุน’ (นัมกุงมิน) สมัยก่อนอัยการที่ผันตัวมาเป็นทนาย ซีรี่ย์เกาหลี   เขาเป็นที่ร่ำลืออีกทั้งในด้านของความยียวนกวนใจ นอกคอก รวมทั้งถ้อยคำเราะรายอย่างร้ายกาจ ด้วยมาดที่ไม่ซ้ำใครกับแฟชั่นส่วนตัวทั้งยังรูปร่างหน้าตาสไตล์การแต่งตัวกับแว่นตาดำสุดหรู ที่เขาพึงใจพรีเซนเทชั่นลุคนี้ของตนซะอย่างมาก แม้กระนั้นแม้กระทั่งข้างนอกเขาจะเป็นแบบไหนก็ตาม ด้านในที่เอื้อเฟื้อต่างหากที่ทำให้กิตติศัพท์ของเขามีชื่อเสียงในวงการตุลาการในฐานะทนายความหัวกบฏ โดยยิ่งไปกว่านั้นการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ตกระกำลำบากโดยรับค่าแรงงานเพียงแค่ 1,000 วอนเพียงแค่นั้น

เป็นทนายความขวัญใจประชากรโดยแท้จริง มองเห็นอย่างนี้อย่ามีความคิดว่าเขารวยมาจากไหนเลยจ้าจ๊ะ ด้วยเหตุว่าแน่ๆว่าทนายความคนยากจนก็จนกระทั่งไม่แพ้คนไหนเช่นกันนั่นแหละ ด้วยเหตุว่าถึงจะหล่อ เนี๊ยบและก็เฟี้ยวฟ้าวแค่ไหน ว่าความในศาลจะเก่งกล้าสักเท่าไหร่ ก็ยังแพ้ป้าผู้ครอบครองห้องพักที่มาทวงค่าใช้จ่ายในการเช่ายิกๆอยู่ร่ำไป งานนี้ฟ้าดินก็ต้องส่งนางอัปสรในชุดสีชมพูแสบสันมาช่วยประคองสถานะกันสักนิด

เรื่องราวของ ชอนจีฮุน (รับบทบาทโดย นัมกุงมิน) อดีตกาลอัยการผู้ผันตัวมาเป็นทนายจนได้ชื่อว่าเป็นกบฏที่แวดวงกฎหมาย เขามักเผยตัวในสูทลายสก็อตตัดเย็บอย่างยอดเยี่ยมพร้อมทรงผมดัดลอนมีสไตล์ ภาพลักษณ์มองไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่กลับมีใจอันเป็นบุญกุศล ชอนจีฮุนใช้ข้อบังคับเป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่วยเหลือผู้คนที่กำลังลำบากโดยคิดค่าตอบแทนเพียงแต่หนึ่งพันวอน ฝีมือและก็ความเฉลียวฉลาดอันเด็ดขาดทำให้ความโด่งดังของเขาเป็นที่ลือลั่นในวงการตุลาการ

หากแม้โลกจะกระหน่ำฟ้าจะทลายแม้กระนั้นชอนจีฮุนยังยืนหยัดอยู่ได้ในฐานะ ทนายความพันวอน ผู้เป็นขวัญใจคนยากจนเมื่อครั้งที่ชอนจีฮุนรับว่าความในคดีคนล้วงกระเป๋า เขาได้เจอกับคู่ปรับในชั้นศาลอย่าง กางคมารี (สวมบทโดย คิมจีอึน) อัยการฝึกฝนผู้เป็นหลานสาวของประธานบริหาร ที่ทำการข้อบังคับกางค ภายหลังเสียท่าปราชัยในคดีดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วให้กับชอนจีฮุน กางคมารียังจะต้องหามความเขินอายอับอายขายหน้าไปศึกษางานกับเขาตามคำสั่งของปู่ แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานะคู่ปรับที่ไม่มีผู้ใดยอมคนใด

ซีรี่ย์เกาหลี 

แต่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องร่วมมือกันบรรเทาปัญหาให้กับผู้คนมากไม่น้อยเลยทีเดียว สารพัดเดือดร้อนที่ผ่านมือทำให้ทั้งคู่ได้ศึกษาและทำการค้นพบค่าที่การเป็นอัยการเพื่อมวลชนอย่างแท้จริงด้วยความบังเอิญที่จำต้องไปว่าความในคดีเดียวกัน ทำให้เขาได้พบกับ ‘กางคมารี’ (คิมจีอึน) อัยการฝึกซ้อมหลานสาวคนเก่งของประธานบริหารที่ทำการข้อบังคับกางค สองคนพบกันในฐานะคู่ปรปักษ์ในชั้นศาลแล้วก็แน่ๆว่ากางคมารีแพ้ราบคาบ หนำซ้ำยังจะต้องตากหน้ายับๆไปขอฝึกหัดงานกับชอนจีฮุนซะอีกตามคำสั่งประกาศิตของปู่

ไม่ต้องการที่จะไปก็จะต้องไป ไม่ต้องการที่จะอยากร่วมมือก็จำต้องร่วมทำยังไงได้ แล้วก็การร่วมงานของพวกเขาคราวนี้ก็ทำให้จำเป็นต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา ที่จะวุ่นมากแค่ไหน บอกความหมายอะไรกับชีวิตกันบ้างOne Dollar Lawyer : เปิดตัวมาอย่างปั๊วะปังด้วยเรตแย้ง 8.1% เรียกว่าสูงสุดของปีนี้กันอย่างยิ่งจริงๆ แน่ๆว่าการเปิดตัวคราวนี้เพราะว่าผู้แสดงนำฝ่ายเป็นเหตุ ก็อีกทั้งนัมกุงมิน รวมทั้งคิมจีอึน เคยร่วมงานกันมาก่อนใน ‘The Veil’ (2021) ในฐานะคู่ขาเคมีล้ำเลิศ การกลับมาตอนนี้ก็เลยเรียกความพึงพอใจของแฟนคลับได้ไม่น้อย

แล้วก็พวกเขาก็สามารถรับประกันผลงานได้ด้วยเรตแย้ง 8.5% ขณะที่สอง ตอกย้ำซ้ำเติมการคอยของแฟนๆได้แบบเต็มคำ กับซีรีส์ข้อบังคับสายฮาที่หลบดราม่าไว้ไม่มิดความฮาแบบโบ๊ะบ๊ะที่ไม่ไม่เป็นประโยชน์เลยนิดหน่อย เพราะเหตุว่าทุกๆความประพฤติปฏิบัติล้วนมีเหตุมีผลรวมทั้งแอบแฝงไว้ด้วยสาระในเส้นเรื่องจนกระทั่งกล่าวได้ว่าเกือบจะทุกอนู ด้วยการใช้เรื่องราวในชีวิตของมนุษย์

ที่มองดูจากข้างนอกนั้นแสนจะปกติมาผูกปมเกิด ซีรี่ย์เกาหลี   เรื่องราวที่มีเพียงแค่คนที่ตั้งใจมันเพียงแค่นั้นจะร้องเอ๊ะกับความธรรมดาพวกนั้น ซึ่งทนายความพันอ้อนวอนงพวกเราคนนี้เขาเห็นและก็ตั้งใจทุกชีวิต ทุกความลำบากที่ผ่านเข้ามาให้เขาได้เจอและไม่เคยได้เห็นเกิดเรื่องนิดหน่อย จนถึงพวกเราจับพินิจได้ว่า โน่นเนื่องจากว่าเขาเคยพลาดในมุมนั้นๆมาก่อน ก็เป็นการซ่อนเร้นดราม่าที่พวกเรารู้ดีว่าควรมี และก็จัดเตรียมคอยรับความซาบซึ้งกันได้เลย

เรียกว่าคนจำนวนไม่น้อยเริ่มเหม็นเบื่อกับรายละเอียดที่ล้วนเอาจริง acaiultralean เอาจังต่อเนื่องกันมาเป็นสิบเรื่อง ก็เลยไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าการกระจายเสียงสู่สายตาผู้ชมในตอนนี้ย่อมสุ่มเสี่ยงเป็นปกติ แต่ทว่าเรื่องราวที่ฟาดศีรษะเข้าบ้านได้ตั้งแต่งัดแงะฝากระป๋องก็สามารถเอาผู้ชมได้อยู่มือ ไม่ฉุดกระชากลากถูก็พร้อมกลับมาตายรังอยู่ดีไม่ใช่ทุกคนที่ยอมควักกระเป๋าเยอะแยะเป็นรายจ่ายสำหรับเพื่อการต่อสู้คดี หลายชีวิตจำเป็นต้องยอมรับความพ่ายแพ้เพราะเหตุว่าไม่มีสติปัญญาว่าจ้างทนายความมาช่วยเรียกร้องความเที่ยงธรรมให้กับตนเอง

การจับหัวข้อเบื้องต้นในแวดวงกฎหมายมาเล่าสู่กันฟังผ่านนักแสดง ทนายความพันวอน ก็เลยเป็นแถวคิดที่สร้างความว้าวได้อย่างชาญฉลาด การออกแบบให้เขาอยู่ในสถานะวีรบุรุษของคนอดอยากยิ่งสามารถซื้อใจผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย ชักชวนให้พวกเราอยากรู้สงสัยถัดไปว่าชอนจีฮุนต้องเจอกับคดีที่ยากขึ้นแค่ไหน จะใช้ไม้ตายอะไรมาประมือในชั้นศาล และจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาปลดเกษียณอาชีพอัยการแล้วผันตัวมาเป็นทนายสายบุญ นับว่าเป็นเงื่อนใหญ่ที่น่าดึงดูดเพียงพอจะตรึงพวกเราไว้ตราบจนกระทั่งกำลังจะถึงเวลาแถลงไขอย่างแจ่มแจ้ง

การเลือกใช้โทนคอมเมดี้เป็นตัวชูโรง แปลงเรื่องเครียดให้เกิดเรื่องฮาประเภทที่เรียกว่าล้างตำราเรียนทุกกระบิ  ซีรี่ย์เกาหลี   ทำให้พวกเราได้มีความคิดเห็นว่าซีรีส์แนวข้อบังคับไม่จำเป็นที่ต้องสู้บาดใจเอาจริงเอาจัง ทดลองบิดมาเล่าในมุมที่ไม่มีใครเหมือนยัดเยียดข้อหาบ้าๆเล่นใหญ่ของนักแสดงลงไปก็นำไปสู่บรรยากาศรูปแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำๆซากๆ สองทีแรกๆที่ผ่านไปพอเพียงจะมีความเห็นว่าคดีในเรื่องมักมาจากเรื่องราวในชีวิตประจำวัน อดีตกาลผู้ต้องขังที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นคนล้วงกระเป๋า แล้วก็ข้าราชการรักษาความปลอดภัยที่ถูกลูกบ้านกดขี่ข่มเหง ซีรีส์เล่าใจความสำคัญพวกนี้ไปอย่างค่อยสบายแต่กระตุ้นความพอใจของพวกเราได้อย่างดีเยี่ยม